เวลาที่เหมาะสมในการผสมพันธุ์ของน้องหมา ชิวาวา


พ่อพันธุ์และแม่พันธุ์

ชิเพศผู้ : จะแสดงอาการกระตือรือร้นเรื่องเพศเมื่ออายุประมาณ 6-8 เดือน แต่ควรจะรอให้สุนัขโตเต็มที่เมื่ออายุ 1 ปีขึ้นไปควรบำรุงพ่อพันธุ์ให้กินอาหารที่มีโปรตีนมาก ๆ และต้ออกกำลังกายสม่ำเสมออย่าให้อ้วนหรือผอมเกินไป เพราะเมื่อพ่อพันธุ์แข็งแรงก็จะผลิตตัวอสุจิที่แข็งแรง

ชิเพศเมีย : การเลี้ยงดูแม่พันธุ์ควรได้รับสารอาหารครบถ้วนทั้งโปรตีน วิตามินและเกลือแร่ โดยเฉพาะวิตามินอี ที่มีผลต่อการสืบพันธุ์และผสมติด แต่ต้องระวังอย่าให้อ้วนเพราะจะทำให้โอกาสในการผสมติดมีน้อย แม่สุนัขที่เริ่มเป็นสัดครั้งแรกยังไม่ ควรให้ผสมเพราะความสมบูรณ์ยังไม่พร้อมเต็มที่ ควรเว้นไป 2 รอบการเป็นสัดการเป็นสัดจะเร็วหรือช้าขึ้นอยู่กับความสมบูรณ์ของสุนัข 

การจับคู่ : ไม่ควรผสมพันธุ์ระหว่างสุนัขที่มีสายเลือดใกล้ชิดกัน เช่น พ่อหรือแม่กับลูก ซึ่งเรียกว่าการผสมในสายพันธุ์(in breed)เพราะจะทำให้ลูกสุนัขที่เกิดมารวบรวมเอาสิ่งที่ไม่ดีหรือข้อด้อยจากสายเลือดให้มีมากขึ้น เช่น โรคต่าง ๆ ความไม่แข็งแรงของอวัยวะบางส่วน เป็นต้น นอกจากนี้ไม่ควรผสมสุนัขแบบเปะปะระหว่างสายพันธุ์ต่างกัน เพราะนอกจากจะได้ลูกสุนัขพันธุ์ทางแล้วยังเป็นการกระจาย สุนัขที่มีสายเลือดไม่แท้ออกไป อาจมีผลร้ายที่ผู้ไม่รู้เกิดนำไปขยายพันธุ์ต่อก็ยิ่งจะกลายพันธุ์หนักเข้าไปอีก ซึ่งการจับคู่พ่อแม่พันธุ์สามารถ ศึกษาสายพันธุ์ได้จากใบประวัติหรือที่เรียกว่าเพ็ดดีกรี(pedigree)


วงรอบการเป็นสัด

โดยปกติสุนัขมีรอบการเป็นสัดปีละ 2 ครั้ง คือทุก 6 เดือน ระยะเวลาของการเป็นสัดโดยปกติเฉลี่ย 18 วันแต่บางตัวอาจนาน ถึง 21 วันระยะของการเป็นสัดนั้นมี 4 ระยะสามารถจำแนกได้ดังนี้

ระยะที่ 1 ก่อนเป็นสัด (Pro-Estrus) เป็นช่วงที่เจ้าของสามารถสังเกตเห็นความเปลี่ยนแปลงของตัวสุนัขมากที่สุดโดยอวัยวะเพศของสุนัขจะบวมและมีเลือดแดงไหลจากช่องคลอดช่วงนี้สุนัขตัวผู้จะวนเวียนเข้ามาใกล้ตัวเมียบางรายอาจจะเห่าหอน สาเหตุที่เป็นเช่นนี้เพราะว่าสุนัขเพศเมียที่เป็นสัดจะปล่อยฟีโรโมนออกไปจากตัวของมันเพื่อส่งสัญญาณให้คู่ของมันทราบว่า ตอนนี้มันจวนจะถึงเวลาที่จะสืบพันธุ์แล้ว ช่วงนี้จะกินเวลา ประมาณ 9 วัน ซึ่งแม่สุนัขจะยังไม่ยอมรับการผสมพันธุ์

ระยะที่ 2 เป็นสัด (Estrus) ช่วงนี้สุนัขจะยอมผสมพันธุ์และมีการตกไข่เกิดขึ้น ระยะนี้จะกินเวลาเฉลี่ย 9 วัน การเปลี่ยนแปลงที่เราจะสังเกตเห็นได้คือสุนัขจะมีน้ำเลือดไหลออกมาจางมากๆ จะยินยอมให้สุนัขตัวผู้ขึ้นขี่หลัง ถ้าลองเอามือกดบริเวณหลังช่วงสะโพกจะพบว่าแม่สุนัขจะยืนหลังแข็งรับแรงกดที่เกิดขึ้นได้

ระยะที่ 3 ช่วงท้ายของการเป็นสัด (Met-Estrus) เป็นระยะที่หลังจากเป็นสัดจะมีอิทธิพลของฮอร์โมนโปรเจสเตอร์โรนสูง สุนัขบางตัวที่ไม่ได้ผสมพันธุ์อาจจะมีอาการท้องเทียมเกิดขึ้นได้ ก็เพราะอิทธิพลของฮอร์โมนชนิดนี้นั่นเองระยะนี้กินเวลาเฉลี่ย 90 วัน

ระยะที่ 4 ระยะไม่เป็นสัด เป็นช่วงพักที่ไม่มีการเปลี่ยนแปลงใดๆ ที่เกี่ยวข้องทางเพศของแม่สุนัขเลย กินเวลาเฉลี่ย 75 วัน 


การผสมพันธุ์

ควรเริ่มผสมประมาณวันที่ 10-14 หลังจากเริ่มเป็นสัด คือระยะที่สองของการเป็นสัดนั่นเอง การผสมอาจทำเพียงครั้งเดียวก็ได้ แต่ส่วนใหญ่เพื่อให้ได้ผลแน่นอน มักจะผสมสองครั้งห่างกัน 24 ชั่วโมง การผสมตัวผู้จะขึ้นคร่อมโดยใช้ขาหน้ารัดเอวตัวเมีย บางตัวอาจไม่เคยผสมมาก่อนเจ้าของจำเป็นจะต้องช่วยจับอวัยวะเพศตัวผู้ใส่ให้ ซึ่งตัวผู้จะคาค้างไว้ในช่องคลอดเป็นเวลานาน 20-30 นาที หรือที่เรียกว่า"ติด" นั่นเอง เพื่อให้น้ำอสุจิเข้าสู่มดลูกได้สะดวก หลังจากนั้นก็จะหลุดออกมาเองโดยอัตโนมัติ สำหรับการนำแม่พันธุ์ไปผสมกับพ่อพันธุ์ที่อยู่ห่างไกล ควรนำไปก่อนที่จะมีกำหนัดประมาณ 7 วัน เพื่อให้สุนัขได้คุ้นเคยกับพ่อพันธุ์และสิ่งแวดล้อม และเมื่อผสมพันธุ์แล้ว 4 วันควรทำการถ่ายพยาธิอีกครั้ง 


สรุปคำแนะนำขั้นตอนการผสม

1. พาแม่พันธุ์ไปตรวจสุขภาพและความผิดปกติทางกรรมพันธุ์
2. เตรียมหาเจ้าของใหม่ให้ลูกสุนัขหรือเลี้ยงดูเอง
3. หากเป็นพันธุ์แท้ควรลงทะเบียนประวัติกับสมาคมพัฒนาพันธุ์สุนัข(ประเทศไทย)
4. ติดต่อหาพ่อพันธุ์สุนัขจากฟาร์มหรือคอกสุนัขที่เชื่อถือได้
5. ในบริเวณที่มีปัญหาโรคแท้งติดต่อควรตรวจสอบว่าพ่อพันธุ์ไม่เป็นโรคนี้
6. ถ้าพาแม่พันธุ์เดินออกกำลังกายนอกบ้านควรมีสายจูงเสมอ
7. ขณะผสมพันธุ์อาจต้องประคองบั้นท้ายของสุนัขให้ติดกัน เนื่องจากลึงค์ของพ่อพันธุ์ขยาย ใหญ่แน่นกับช่องคลอด ถ้าแม่พันธุ์สลัดหลุดก่อนอาจทำให้ได้รับบาดเจ็บทั้งคู่
8. ผสมพันธุ์ซ้ำอีกครั้งใน 24 ชั่งโมงถัดมา
9. หลังการผสมพันธุ์ 3 สัปดาห์นำไปหาสัตวแพทย์เพื่อตรวจการตั้งท้อง

(ขอบคุณที่มา http://hunterdog.igetweb.com)

  • Digg
  • Del.icio.us
  • StumbleUpon
  • Reddit
  • RSS

Popular